สิว: น่ารู้เกี่ยวกับการรักษาสิว

 วัยรุ่นส่วนใหญ่มีสิว (สิวอักเสบ) และบางคนรู้สึกกังวลใจจนต้องรับการรักษาพยาบาล ที่นี่เราให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการเตรียมการรักษาสิวที่พบบ่อยที่สุดและผลข้างเคียง  ครีมลดสิว



จดหมายข่าวใหม่และดีต่อสุขภาพ

- ความรู้ใหม่เกี่ยวกับสุขภาพของคุณ -

บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อ Sygeforsikringen "danmark" รวมอยู่ในจดหมายข่าว

ใหม่และดีต่อสุขภาพ

ซึ่งผลิตร่วมกับ Netdoktor


จดหมายข่าวเผยแพร่รายไตรมาสให้กับสมาชิกของ "เดนมาร์ก"


อ่านต่อ

sygeforsikring.dk.


ในช่วงวัยรุ่น อาจเป็นเรื่องยากที่จะมีสิวเสี้ยนหรือสิวผด ซึ่งเป็นศัพท์ทางการแพทย์สำหรับการอักเสบที่มักเกิดขึ้นในต่อมไขมันขนาดเล็กของใบหน้าและร่างกายส่วนบนเมื่อเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์

ฮานส์ เบรดสเตด ลมโฮลต์ เป็น ดร. กับ. และผู้เชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนังและกามโรคที่ศูนย์โรคผิวหนัง North ใน Aalborg และรองศาสตราจารย์ที่ Department of Biomedicine ที่ Aarhus University ตามคำบอกของ Hans Bredsted Lomholt ขั้นตอนแรกเมื่อคุณรู้สึกรำคาญกับสิวก็คือการไปที่ร้านขายยาและรับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ในการลองใช้ครีมที่จำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์ที่มีสารเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ซึ่งมีให้สำหรับการรักษา สำหรับสิว ตามกฎแล้ว คุณจะสามารถเห็นผลได้หลังจากใช้ชีวิตประจำวันเป็นเวลาสามถึงแปดสัปดาห์ แต่หากไม่ได้ผลหลังจากระยะเวลาหกถึงแปดสัปดาห์ คุณสามารถขอให้แพทย์ทำการรักษาหรือขอ การส่งต่อไปยังแพทย์ผิวหนัง


ในช่วงวัยรุ่น อาจเป็นเรื่องยากที่จะมีสิวเสี้ยนหรือสิวผด ซึ่งเป็นศัพท์ทางการแพทย์สำหรับการอักเสบที่มักเกิดขึ้นในต่อมไขมันขนาดเล็กของใบหน้าและร่างกายส่วนบนเมื่อเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์  ครีมลดสิวผด




ฮานส์ เบรดสเตด ลมโฮลท์ เป็น ดร. กับ. และผู้เชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนังและกามโรคที่ศูนย์โรคผิวหนัง North ใน Aalborg และรองศาสตราจารย์ที่ Department of Biomedicine ที่ Aarhus University ตามคำบอกของ Hans Bredsted Lomholt ขั้นตอนแรกเมื่อคุณรู้สึกรำคาญกับสิวคือการไปร้านขายยาและรับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ในการลองใช้ครีมที่จำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์ที่มีสารเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ซึ่งมีให้สำหรับการรักษา สำหรับสิว ตามกฎแล้ว คุณจะสามารถเห็นผลได้หลังจากใช้ชีวิตประจำวันเป็นเวลาสามถึงแปดสัปดาห์ แต่หากไม่ได้ผลหลังจากระยะเวลาหกถึงแปดสัปดาห์ คุณสามารถขอให้แพทย์ทำการรักษาหรือขอ การส่งต่อไปยังแพทย์ผิวหนัง

Comments

Popular posts from this blog

คอลลาเจนชนิดที่ 1, 2 และ 3 อะไรคือความแตกต่าง?